เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2566 โลกมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงเกิน 2°C ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยยุคก่อนอุตสาหกรรม ช่วงปี 1850-1900 อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะปานกลางแห่งยุโรป (European Centre for Medium-Range Weather Forecast : ECMWF)
โดย Samantha Burgess รองผู้อำนวยการหน่วยงานติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโคเปอร์นิคัสสหภาพยุโรป (Copernicus Climate Change Service: C3S) ของ ECMWF ได้เผยแพร่ข้อมูลผ่านแพลตฟอร์ม X ระบุว่า วันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นวันแรกที่อุณหภูมิเฉลี่ยโลกเกิน 2°C เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม ช่วงปี 1850-1900 โดยอุณหภูมิโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 2.07°C แม้ว่าจะสูงเกินเกณฑ์ชั่วคราว แต่คาดว่าโลกจะร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนขยับเข้าสู่สถานการณ์ระยะยาวที่ส่งผลกระทบต่อวิกฤตของสภาพภูมิอากาศ โดยขณะนี้ดูเหมือนว่าโลกกำลังเดินทางไปสู่ภาวะที่โลกร้อนขึ้นเกิน 1.5°C อย่างถาวร
ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเรดดิง (University of Reading) Richard Allan ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตอนนี้ทั่วโลกต้องเร่งจัดการกับก๊าซเรือนกระจกอย่างเร่งด่วน ก่อนที่อุณหภูมิเฉลี่ยโลก จะสูงกว่า 2°C เป็นการถาวร สร้างผลกระทบกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่อาจคาดเดาได้
ดังนั้น การประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 28 (COP 28) ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในวันที่ 30 พ.ย. - 12 ธ.ค. นี้ จึงเป็นที่น่าจับตามองเป็นพิเศษว่าผู้นำและตัวแทนรัฐบาลต่างๆ จะมีแนวทางใดออกมาเพื่อจัดการกับก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
🚩 แหล่งที่มาของข้อมูล:
---------------------------------------------------
ติดตามข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
Website: www.netzerotechup.com
Facebook: Net Zero Techup
Blockdit: www.blockdit.com/netzerotechup
Youtube: www.youtube.com/@netzerotechup
Comments